สารพิษที่ปนเปื้อนในน้ำ ก่อให้เกิดโรคใด?

สารตะกั่ว (Lead)
สารตะกั่ว (Lead) เป็นโลหะหนักที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติอ่อนตัวและสามารถดัดเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ สารตะกั่วจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆ มากมาย เช่น แบตเตอรี่ บัดกรี สีทาบ้าน หรือนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสารตะกั่วนั้นจะมีประโยชน์มากมาย แต่สารนี้ก็เป็นพิษอย่างรุนแรงต่อทั้งคนและสัตว์
สารตะกั่ว สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสติปัญญา โดยเฉพาะการพัฒนาของสมอง พิษจากสารตะกั่วนี้สามารถทำลายระบบประสาทและทำให้ไตเสียหาย ทำให้เกิดอาการชัก หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้
อาการในช่วงแรกของภาวะเป็นพิษจากสารตะกั่วนั้นอาจจะระบุได้ยาก เพราะโดยปกติแล้วสัญญาณและอาการของภาวะเป็นพิษจากสารตะกั่วนั้นจะไม่แสดงจนกว่าจะมีปริมาณของ สารตะกั่ว สะสมในร่างกายในอยู่ระดับที่รุนแรงแล้ว
- คลอดก่อนกำหนด
- น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย
- การเจริญเติบโตช้า, เรียนรู้ช้า
- อาการของภาวะเป็นพิษจากสารตะกั่วในเด็ก
- หงุดหงิดง่าย, เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลด, เหนื่อยล้า
- ปวดท้อง, อาเจียน
- ท้องผูก
- สูญเสียการได้ยิน
- ชัก

สนิม (Rust)
สนิม (Rust) อย่างที่ทุกคนน่าจะทราบว่า นั้นเป็นโลหะที่มีการเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม เนื่องจากได้ทำปฏิกิริยากับอากาศ น้ำ หรือออกซิเจน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้โลหะเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม เช่น มีสีที่เปลี่ยนไป มีความแข็งแรงลดลง แล้วทำให้เกิดการผุกร่อนในที่สุดสนิม (Rust) อย่างที่ทุกคนน่าจะทราบว่า นั้นเป็นโลหะที่มีการเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม เนื่องจากได้ทำปฏิกิริยากับอากาศ น้ำ หรือออกซิเจน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้โลหะเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม เช่น มีสีที่เปลี่ยนไป มีความแข็งแรงลดลง แล้วทำให้เกิดการผุกร่อนในที่สุด
ปัญหา สนิม เหล็กมักพบบ่อยในน้ำบาดาล ส่งผลต่อคุณภาพน้ำที่ไม่มีความสะอาดปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ที่นำไปใช้ในการอุปโภคหรือบริโภค ดังนั้นก่อนนำน้ำบาดาลไปใช้ต้องมีการกำจัด สนิม เหล็กก่อน เช่น การกรองสารละลายเหล็กด้วยสารกรองแก้ว หรือ ทรายกรอง หรือการนำน้ำมาตกตะกอนด้วยการเติมอากาศ

สาร ปรอท (Mercury)
ปรอท เป็นโลหะที่เป็นพิษ ซึ่งอยู่ในรูปของเหลว มนุษย์นําปรอทไปใช้ผสมหรือเจือโลหะต่าง ๆ เช่น ทองคํา เงิน และทองแดง ที่เรียกว่า “อะมัลกัม (Amalgam)” วัสดุที่นําไปใช้ในการอุดตัน ใช้เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์และเป็นองค์ประกอบของยาปราบศัตรูพืช และสัตว์
สารปรอท ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตทางอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมายมาเป็นเวลานาน แต่ ปรอท ก็มีโทษเช่นกัน ปรอทบางรูปแบบ สามารถปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม เมื่อสิ่งมีชีวิต รวมทั้งมนุษย์ ได้รับสารปรอทเข้าสู่ร่างกาย สามารถทำให้เกิดพิษจากปรอท นำมาซึ่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
อาการพิษจาก สารปรอทมี ๒ ลักษณะ คือ
พิษเฉียบพลัน เกิดจากการได้รับ สารปรอท คราวเดียวปริมาณมาก ทำให้มีอาการไข้ หายใจลำบาก ปอดอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีแผลในปาก น้ำลายออกมาก มีภาวะไตวาย ถ่ายเป็นเลือด ชัก กระตุก เดินเซ การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อผิดปกติ
พิษเรื้อรัง เกิดจากการได้รับสารปรอทสะสมทีละน้อยเป็นระยะเวลานาน จนเกิดพิษทางสมอง ไต ตับ ผิวหนัง ทำให้มีอาการสั่น ชัก ปวดปลายมือปลายเท้า ปวดศีรษะ หงุดหงิด ขี้ลืม ประสาทหลอน ฟันโยก เหงือกบวมมีเส้นทึบสีน้ำเงิน เลือดออกง่าย ภาวะซีด เลือดจาง มีอาการทางตับและไต
ที่มาของข้อมูล สารปรอท sgechem.com

แคดเมียม (Cadmium)
คือธาตุเคมีที่มีหมายเลขอะตอม 48 และสัญลักษณ์คือ Cd แคดเมียมเป็นโลหะทรานซิชันสีขาว-ฟ้า เป็นธาตุมีพิษ ในธรรมชาติพบอยู่ในแร่สังกะสี แคดเมียมใช้ประโยชน์ในการทำแบตเตอรี่
แคดเมียม ก่อให้เกิดโรคอะไร
ปวดแขน ขา, มีวงแหวนแคดเมียม, ปวดกระดูก, ปวดข้อ, มีความผิดปกติที่กระดูกสันหลัง ทำให้มีลักษณะเตี้ย หลังค่อม อาการระยะสุดท้าย ได้แก่ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด มีความผิดปกติของ เมทาบอลิซึม โดย ส่วนใหญ่ เสียชีวิตจากภาวะไตวาย และการเสียสมดุลของเกลือแร่
อาการของของ อิไตอิไต ที่เกิดจาก แคทเมียม
โรคอิไตอิไต (Itai-itai disease) พบครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น แถบแม่น้ำจินสุ เขตโตยามา พ.ศ. 2493 เนื่องมาจากมีการทิ้งขี้แร่จากการท าเหมืองสังกะสีลงในแม่น้ำสายนี้ ขี้แร่นี้มีแคดเมียมปนเปื้อนอยู่ ชาวบ้านที่ใช้ น้ำจากแม่น้ำหรือได้รับ แคดเมียม ทางอ้อมจากแม่น้ำ เกิดเป็นโรคไต กระดูกผุ เจ็บปวดบริเวณหลังและเอวอย่างรุนแรงมาก และการมีเด็กพิการในอัตราสูงผิดปกติ จึงเป็นที่มาของ โรคอิไต-อิไต
ที่มาของข้อมูล แคดเมียม และโรคอิไตอิไต med.nu.ac.th