ยูวีฆ่าเชื้อ High Output UV-C 80 วัตต์ 1 หลอดไฟ

รังสียูวี แสงยูวี หลอดยูวี หรือเครื่องอบยูวี มักนิยมใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในโรงพยาบาล อาทิเช่น ห้องผ่าตัดที่ต้องการความสะอาดและปลอดเชื้อมาก ๆ หรือโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

แน่นอนว่าแสงยูวีนั้นสามารถฆ่าเชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ ได้ และ COVID-19 หรือที่มีชื่อเรียกสายพันธุ์ไวรัสว่า SARS-CoV-2 ที่ระบาดอย่างหนักในตอนนี้ ซึ่งนั้นก็เป็น 1 ในตระกูลของไวรัสโคโรน่า ที่ได้มีการทดลองนำเชื้อไวรัสโคโรน่ามาใช้กับแสงยูวีและได้ข้อสรุปว่าหากรังสียูวีมีปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสมสามารถฆ่าเชื้อได้จริง 99.99% ในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความแรงหรือความเข้มข้นของแสง UV C ที่อาจจะใช้ระยะแวลาตั้งแต่ 10-30 นาที หากรังสี UV C แรง ๆ ก็ใช้เวลาประมาณ 5 นาที แม้ว่าตัวเชื้อที่นำมาทดลองนั้น จะไม่ใช่เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ SARS-CoV-2 แต่โครงสร้างของตระกูลไวรัสโคโรน่านั้นก็มีโครงสร้างคล้าย ๆ กัน จึงพอสรุปเป็นแนวทางได้ว่า แสงยูวีนั้นสามารถฆ่า COVID-19 ได้จริง

– เหล็กกล้าไร้สนิม 304 เครื่องปฏิกรณ์รังสีอัลตราไวโอเลต
– ภายในเป็นกระจกเพื่อการสะท้อนสูงสุด -> ปริมาณรังสี UV สูงสุด 30-90 mJ / cm2 @ อัตราการไหลของน้ำที่ระบุ
– ปลอกควอทซ์คุณภาพสูงสำหรับการส่งผ่านรังสี UV สูงสุด
– ออกแบบพิเศษ – การรวมกันของปลอกควอทซ์และตัวยึดโคม UV ในชิ้นเดียวเพื่อให้สะดวกที่สุดในการเปลี่ยนหลอด UV หรือการทำความสะอาดผิวภายนอกของปลอกควอทซ์ด้วยวิธีที่สะดวกที่สุด
– หลอด UV ให้ผลผลิตสูงเพื่อสร้างรังสี UV 254 นาโนเมตรอายุการใช้งาน 9,000 ชั่วโมง
– บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์อายุการใช้งาน 25,000 ชั่วโมง
– ฝาครอบตัวยึดหลอดพลาสติกใสเพื่อแสดงแสงสีน้ำเงินในขณะที่หลอด UV ยังทำงานอยู่
– การออกแบบขั้นสูงเพื่อป้องกันการไหลของน้ำบายพาสภายในห้องปฏิกรณ์ SS
– การแจ้งเตือนด้วยแสงและเสียงเมื่อหลอด UV ปิดการทำงาน

– เราใช้การรวมกันของรังสียูวีและก๊าซโอโซนในการฆ่าเชื้อน้ำแทนคลอรีนซึ่งปลอดภัยกว่าสำหรับนักว่ายน้ำและผิวหนังเพราะปลอดภัยกว่าไม่มีสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ไม่มีสารก่อมะเร็ง
– ในระบบของเรามีรังสียูวี 2 ประเภท: รังสียูวี 185 นาโนเมตรและรังสียูวี 254 นาโนเมตร
– รังสียูวี 185 นาโนเมตรจะกำจัดปริมาณสารอินทรีย์ทั้งหมด (ลด TOC) และลดการผลิตสาหร่าย
– รังสียูวี 254 นาโนเมตรจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียไวรัสเชื้อราโดยไม่ต้องเติมสารเคมีใด ๆ
– ก๊าซโอโซนจะถูกนำไปผสมกับน้ำในสระโดย Venturi เพื่อออกซิไดซ์มลพิษทั้งหมดในน้ำและฆ่าเชื้อแบคทีเรียไวรัสราและลดสาหร่าย
– รังสียูวีจะไม่มีผลตกค้างในสระหลังจากผ่านเครื่องปฏิกรณ์ UV แต่โอโซนที่ละลายจะยังคงอยู่ในสระ 15-40 นาทีขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของน้ำในสระ (น้ำเย็นจะทำให้โอโซนละลายอีกต่อไป) ดังนั้นในฤดูที่อุณหภูมิเย็น (ต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส) โดยไม่มีแสงแดด -> ไม่มีการใช้สารละลาย Algaecide
– แต่ในฤดูร้อนและแสงแดดโดยตรงสาหร่ายอาจสะสม (เนื่องจากโอโซนละลายอยู่ในน้ำได้เพียง 15-40 นาที) ดังนั้นขอแนะนำอย่างยิ่งให้ผสมสารละลายคอปเปอร์ซัลเฟตที่ความเข้มข้น 0.5 กรัม / 1,000 ลิตรต่อสัปดาห์เพื่อป้องกันการผลิตสาหร่าย

รังสีอัลตราไวโอเลตความยาวคลื่น 254 นาโนเมตร (นาโนเมตร) มีประสิทธิภาพอย่างมากในการฆ่าจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรียในอากาศและ ในน้ำ, ไวรัส, ยีสต์และเชื้อรา หลอดฆ่าเชื้อโรคถูกนํามาใช้อย่างกว้างขวางในการใช้งานการฟอกอากาศและน้ําในภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงน้ําดื่มน้ําบริสุทธิ์การประยุกต์ใช้ทางการแพทย์การฆ่าเชื้ออากาศในห้องการบําบัดน้ําเสีย มากกว่านั้นคุณสมบัติการฆ่าเชื้อโรคของรังสีอัลตราไวโอเลตความยาวคลื่น 254 nm ก็ยังสามารถใช้สําหรับการทําลายโอโซนเพื่อลดก๊าซโอโซนละลายในน้ําหรือก๊าซโอโซนกระจายอยู่ในอากาศ

ระบบ UV-C ทั้งหมดที่สร้างผลผลิตสูงสุดของรังสี UV 254nm สลายและขจัดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพด้วยคลอรีนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคลอรีนอิสระทำปฏิกิริยากับสารอินทรีย์เช่นเหงื่อไขมันในร่างกายและปัสสาวะ แต่ระบบ OUV ของเรานั้นแตกต่างจากระบบ UV-c ทั่วไป OUV ของเรานั้นมีหลายสีและมีเอาต์พุต UVC ที่กว้างขึ้นที่ 185nm และ 254 nm เอาต์พุตแสง UVC ที่กว้างขึ้นนี้สามารถกำจัดคลอรีนได้ทุกประเภท (โมโน, ดิ – และไตรคลอรามีน)

หลังจากผ่านไปสองสามวันของการทำงานของยูวีการรวมตัวกับระดับคลอรีนมักจะลดลงต่ำกว่า 0.1 ppm หรือน้อยกว่า มันจะช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพผิวคันคันแสบตาแดงกลิ่นคลอรีนและคุณสมบัติการกัดกร่อนจะถูกขจัดออกไป น้ำในสระเปลี่ยนเป็นประกายและดูสะอาดตา

ระบบ OUV ของเรายังให้ระดับการฆ่าเชื้อโรคที่เพิ่มขึ้นช่วยป้องกันจุลินทรีย์ที่ทนต่อคลอรีนส่วนใหญ่เช่น Cryptosporidium และ Giardia ซึ่งมีเยื่อหุ้มชั้นนอกที่หนาทำให้ทนทานต่อการฆ่าเชื้อโรคทางเคมีแบบดั้งเดิม โดยเพิ่มโอโซนลงไปในน้ำเพื่อออกซิไดซ์แอมโมเนียและสารประกอบไนโตรเจน ยิ่งระบบทำงานนานขึ้นโอโซนก็ยิ่งทำลายแอมโมเนียและไนโตรเจนได้มากเท่านั้น

โอโซนถูกนำมาใช้เพื่อกำจัดสาหร่ายเป็นเวลาหลายปีและให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก เมื่อเปรียบเทียบโอโซนกับสารออกซิแดนท์ที่แรงมาก ๆ โอโซนได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากในระยะเวลาอันสั้นมากกว่าโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตและคลอไรน์และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ระบบรวม UV sterilizer และโอโซนควบคุมการก่อตัวของสาหร่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับสาหร่ายทุกชนิดโอโซนสามารถลดได้มากกว่า 95% ระบบโอโซนต่อสู้กับสาหร่ายอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาคุณภาพน้ำที่ดีเยี่ยม นักเล่นเรือเดินทะเลได้รับการยอมรับข้อได้เปรียบของระบบโอโซนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาโดยไม่มีข้อโต้แย้งโอโซนเป็นแบคทีเรียธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงสุด